วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

ม่วนคั่กคั่ก 10 แหล่งเที่ยวริมโขง เมืองอุบลฯ

ม่วนคั่กคั่ก 10 แหล่งเที่ยวริมโขง เมืองอุบลฯ


อุบลราชธานี ชื่อจังหวัดริมแม่น้ำโขง สุดเขตแดนอีสานนี้อาจดูไกลหูไกลตาสำหรับผู้คุ้นเคยกับใช้เวลาทำงานส่วนใหญ่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือมีเวลาลาพักร้อนไปชาร์ตแบจเพียงน้อยนิด แต่สำหรับผู้ที่พิศสมัยการเดินทางแล้วจะรู้ว่าอุบลราชธานี เมืองชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไืทยนี้ มีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามซ่อนตัวอยู่มากมาย และหนึ่งในนั้นคือเส้นทางริมแม่น้ำโขง ที่ไหลผ่านประเทศไทย และจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีมนต์เสน่ห์งดงามน่าไปเยือนมากๆ และวันนี้ สนุก! ท่องเที่ยวจะพาทุกคนไปสัมผัสกับ 10 แหล่งท่องเที่ยวเด็ดๆ ริมแม่น้ำโขงที่คุณไปแล้วต้องประทับใจและบอกว่า ม่วนคั่กๆ (สนุก) เป็นแน่!
1.มหัศจรรย์เมืองหินแห่งสามพันโบก

หนึ่งในสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวของอุบลราชธานีที่วันนี้ทุกคนต้องมาเยือน โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนมิถุนายนของทุกปี หลังสายน้ำในแม่น้ำโขงลดลงจนเผยให้เห็นเกาะแก่งหินที่ถูกกระแสน้ำำขัดเกลาจนเกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติกินอาณาบริเวณกว้างไกลสุดตายตา ราวกับเมืองแห่งความลับใต้บาดาลดูสวยงามยามต้องแสงสีทองของดวงตะวันไม่ว่าจะเป็นยามเช้าหรือเย็นย่ำ ล้วนตรึงทุกสายตาให้จดจ่อและดื่มด่ำกับภาพนั้นยาวนานที่สุด คงไม่ผิดนักหากเปรียบที่นี่ดัง "แกรนด์แคนยอนเมืองไทย" ด้วย "โบก"อันเกิดจากกระแสน้ำโขงได้กัดเซาะหินทรายจนกลายเป็นหลุมเป็นแอ่งมากมายหลายขนาด กลายเป็นผลงานสร้างสรรค์จากธรรมชาติอันไพศาลชื่อว่า "สามพันโบก" ซึ่งจะพาทุกจินตนาการหลุดลอยไปกับสายน้ำ
การเดินทางลัดเลาะเที่ยวสามพันโบกอย่างใกล้ชิดต้องอาศัยการล่องเรือที่พาลัดเลาะไปยังจุดสำคัญๆ มากมาย อาทิ ปากบ้องเป็นจุดแคบสุดของแม่น้ำโขง วัดได้ 56 เมตร แก่งสองคอน เกิดจากเกาะหินหัวพะเนียงวางกลางลำน้ำโขง ทำให้แม่น้ำโขงแยกออกเป็นสองสายหรือสองคอน หาดสลึงเป็นหาดทราย สวยงามเหมาะพักผ่อนหย่อนใจริมฝั่งน้ำมูล ผาหินศิลาเลขซึ่งเป็นเหมือนรอยจารึกอดีตสมัยฝรั่งเศสรุ่งเรือง และหาดหงส์ซึ่งเป็นเนินทรายริมน้ำโขงขนาดกว้างใหญ่ไพศาลโดยเฉพาะในช่วงอาทิตย์ใกล้ลับฟ้า หาดหงส์จะทอประกายความงดงามเหนือลำน้ำโขงด้วยแสงสีทองที่ทาบทอลงมา

การเดินทาง: : อ.โพธิ์ไทร อยู่ห่างจากบ้านลาดเจริญประมาณ 30 กม.

 

Tip: ประเพณีการตักปลาเดือนมกราคม-เดือนกุมภาพันธ์ บ้านสองคอนจะคึกคักเมื่อนักท่องเที่ยวพากันมาชมประเพณีการตักปลาหน้าปากบ้อง เฝ้ามองดูการจับปลาที่แปลกกว่าที่อื่น โดยไม่ต้องใช้เหยื่อตกเบ็ดหรือทอดแห แต่ใช้สวิงขนาดใหญ่ด้ามยาวคอยตักปลาขึ้นมาน่าตื่นตา

2. ลึกล้ำดุจ "ผาชัน"

ผาชันยังคงเป็น "อันซีน" ของอุบลฯ ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้สามพันโบก เพียงแต่ยังไม่เป็นที่รู้จักเท่านั้น ลักษณะของผาชันเกิดจากการกัดเซาะของแม่น้ำโขงมานานนับร้อยนับพันปี เกิดร่องลึกลงไป ครั้นฤดูแล้งน้ำโขงลดระดับจึงมองเห็นเป็นหุบเหวลึกน่าหวาดเสียว หากนั่งเรือล่องแม่น้ำจะมองเห็นผาชันนี้สูงใหญ่น่าเกรงขาม
การเดินทาง: จากสามพันโบก อ.โพธิ์ไทร มุ่ง หน้าไปทางอ.โขงเจียม เพื่อกลับเข้าอุบลฯ ระหว่างทาง จะผ่านบ้านผาชัน

3. ตะวันขึ้นเหนือผาชนะได

ผาชนะได ตั้งอยู่ในเขตป่าดงนาทาม คือจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นจุดแรกสุดในเมืองไทย เป็นชะง่อนผาที่ยื่นตระหง่านไปในฝั่งโขงในช่วงฤดูหนาว นอกจากจะได้ทักทายดวงตะวันสาดแสงเหนือสายน้ำโขงแล้ว ยังเป็นฤดูกาลบานสะพรั่งของเหล่าดอกไม้ป่าที่เบ่งบานอวดสีสันรับสายลมหนาว
การเดินทาง: จาก อ.โพธิ์ไทร มุ่งหน้าไป อ.โขงเจียม ใช้ทางหลวงหมายเลข 2112 ประมาณ 43 กม. จะถึงป่าดงนาทาม

4. น้ำตกแสงจันทร์

ความพิเศษของน้ำตกแสงจันทร์คือธารน้ำที่โปรยละอองผ่านช่องหินเป็นสายน้ำสีขาวนวล ยิ่งในคืนวันเพ็ญยามแสงจันทร์สาดกระทบสายน้ำตกจะดูเป็นประกายสีนวลสวยงามจับตา และเมื่อสายน้ำกระทบสู่พื้นล่างด้วยแล้ว น้ำยังกระจายตัวเป็นรูปหัวใจดูน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
การเดินทาง: ห่างจากน้ำตกทุ่งนาเมืองเพียง 2.7 กม.

5.อุทยานแห่งชาติผาแต้ม

เดินทางต่อมายังภูผาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งครั้งหนึ่งชาวบ้านละแวกนั้นไม่กล้ากรายกล้ำ จนปัจจุบันกลายเป็นอุทยานแห่งชาติทางซีกตะวันออกสุดของไทยในนาม "ผาแต้ม" ครอบคลุมพื้นที่อำเภอศรีเมืองใหม่ อำเภอโขงเจียม และอำเภอโพธิ์ไทร ที่นี่เปิดต้อนรับ
ผู้มาเยือนเข้าไปสัมผัสความมหัศจรรย์จากธรรมชาติหลากหลายแง่มุม ตั้งแต่เสาเฉลียง ลานหินกว้าง ไปจนถึงภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ตามหน้าผาต่างๆ อย่างน่าศึกษา

การเดินทาง: จากน้ำตกสร้อยสวรรค์ มุ่งหน้าไปทาง อ.โขงเจียม บนทางหลวงหมายเลข 2112 ประมาณ 18 กม. จะถึง อช.ผาแต้ม
Tip: ภายในอช. มีบ้านพักบริการไว้บริการติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ โทร. 0 2562 0760 หรือ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติผาแต้ม 0 4531 8026

7. เที่ยวชุมชน ยลงานหัตกรรม

อุทยานแห่งชาติผาแต้มรายรอบไปด้วยชุมชนริมน้ำโขง ซึ่งบ้านกุ่มและบ้านท่าล้ง เป็นสองชุมชนที่ขึ้นชื่อเรื่องหัตถกรรมพื้นบ้านอย่างโดดเด่น บ้านกุ่มนั้นเป็นแหล่งผลิตผ้าฝ้ายทอมือสีธรรมชาติ โดยทอผ้าวิธีพื้นบ้านดั้งเดิมแล้วนำมาย้อมสีธรรมชาติได้สวยสดงดงาม ส่วนบ้านท่าล้งเป็นแหล่งผลิตเครื่องจักสาน เช่น กระติบข้าวเหนียว เสื่อจากต้นเตยป่า ด้วยการถักทออันประณีตละเอียดอ่อนที่มาพร้อมกับความคงทนของงานจักสานฝีมือชาวบ้าน ชิ้นงานจากบ้านท่าล้งจึงได้รับคัดเลือกให้เป็นโอท็อประดับ 4 ดาว อีกทั้งผู้คนบ้านท่าล้งสืบเชื้อสายจากชาวบรู คือ ชนที่อพยพจากฝั่งลาวและมาตั้งรกรากบริเวณนี้กว่า 80 ปีแล้ว (แต่ก่อนชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเรียกคนกลุ่มนี้ว่า "ข่า" แต่พวกเขากลับเรียกตัวเองและภาษาของเขาว่า "บรู" หมายถึง "คน")
การเดินทาง: มุ่งหน้าสู่ อช.ผาแต้ม ที่บ้านหนองผือน้อย ก่อนถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียม 500 ม. เลี้ยวขวาลงไปบ้านกุ่ม จากบ้านกุ่ม เลี้ยวซ้ายเข้าสู่บ้านท่าล้งซึ่งอยู่ห่างจากบ้านหนองผือน้อย 10 กม. สนใจเดินทางไปเยี่ยมชม สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อบต.ห้วยไผ่ โทร. 0 4535 1287
Tip: เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก หลายชุมชนริมฝั่งโขงในอุบลฯ มีชีวิตชีวาด้วยงานแข่งเรือยาว มหัศจรรย์สายน้ำโขง ชี มูล ซึ่งตรงกับช่วงวันออกพรรษา อันสะท้อนถึงวิถีของผู้คนที่ร้อยรัดกับสายน้ำไว้อย่างแนบแน่น ช่วงเวลาดังกล่าวจะมีทั้งงานบุญออกพรรษา ไหลเรือไฟแม่น้ำมูล ไหลเรือไฟแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นการไหลเรือไฟแบบพื้นบ้านที่อำเภอโขงเจียม และยังสามารถชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคที่หมู่บ้านริมโขงเบื้องล่างของผาแต้มคือ หมู่บ้านกุ่ม บ้านตามุย และบ้านท่าล้ง ได้อีกด้วย

8.กราบหลวงปู่คำคนิง...ที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์

วัดนี้ก่อสร้างเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๒๑ โดย "หลวงปู่คำคนิง จุลมณี" เป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ปฏิปทาของท่านที่ถูกเล่าสืบต่อมาคือสามารถลงไปยังถ้ำพญานาคได้ หลวงปู่คำคนิงถึงแม้มรณภาพไปนานแล้ว แต่สังขารท่านไม่เน่าเปื่อย ซึ่งปัจจุบันยังคงถูกเก็บรักษาไว้ในโลงแก้วให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้
การเดินทาง: จาก อช.ผาแต้ม มุ่งหน้าเข้า อ.โขงเจียม ก่อนเข้า อ.โขงเจียม เลี้ยวขวาเข้าเส้น 2222 วัดจะอยู่ซ้ายมือ รวมระยะทางจาก อช.ผาแต้ม 16 กม.

9. ชมโขงสีปูน...มูลสีคราม

ณ ดอนด่านปากแม่น้ำมูล คือจุดที่แม่น้ำสองสายมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำโขงสีปูน แม่น้ำมูลสีคราม นอกจากการชมจากบนสะพานแม่น้ำมูลที่เผยให้เห็นความงดงามนี้ ยังมีจุดที่เราสามารถชมได้ชัดเจนได้แก่บริเวณตลาดริมตลิ่งแม่น้ำมูล แม่น้ำโขงหน้าวัดโขงเจียม และบริเวณบางส่วนของหมู่บ้านห้วยหมากใต้ โดยเฉพาะในเดือนเมษายน จะเป็นเดือนที่เห็นความแตกต่างของสีน้ำได้ชัดเจนที่สุด
ที่ตั้ง: สะพานข้ามแม่น้ำมูล อ.โขงเจียม

10. เวินบึก...โบกมือลาสายน้ำโขง

ได้เวลาโบกมือลาแม่น้ำโขงที่บ้านเวินบึก อำเภอโขงเจียม ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่แม่น้ำโขงไหลผ่านประเทศไทย ก่อนที่จะเข้าสู่ประเทศลาว คำว่า "เวินบึก" นั้น คือบริเวณที่ปลาบึกว่ายเข้ามาในลำน้ำหน้าหมู่บ้าน ซึ่งเป็นจุดลึกสุดของน้ำโขงและในบริเวณนั้นเองยังเป็นจุดที่ชาวบ้านมาจับปลาบึกในฤดูกาลล่าปลาบึก
การเดินทาง: ตัวเมืองโขงเจียม ใช้ทางหลวงหมายเลข 2134 ข้ามสะพานแม่น้ำมูล ประมาณ 200 ม. แยกซ้ายตรงหมู่บ้านท่าแพ ตรงไปตามถนนลาดยางประมาณ 7 กม.

เรียบเรียงโดย: กันต์ ณ ปกรณ์
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ: กองส่งเสริมแหล่งท่้องเที่ยว ฝ่ายส่งเสริมสินค้าท่องเที่ยว ฝ่ายบริการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุบลราชธานี 0 4524 3770, 0 4525 0714

วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2555

๙ สิ่งมหัศจรรย์วัดโพธิ์


๙ สิ่งมหัศจรรย์วัดโพธิ์


๙ สิ่งมหัศจรรย์วัดโพธิ์ เป็นความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(วัดโพธิ์) มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนและสถาบันศาสนา และสร้างจิตสำนึกและความภาคภูมิใจในความเป็นไทย อีกทั้งอนุรักษ์วิถีความเป็นอยู่และศิลปวัฒนธรรมไทยรวมทั้งสร้างกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในยามค่ำคืนในเขตโบราณสถานในกรุงเทพมหานคร

สิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 9 สิ่ง ได้แก่ 
   
1. มหัศจรรย์พระไสยาส  พระพุทธรูปขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ โดยมีลักษณะพิเศษ คือ มีประดับมุกภาพมงคล 108 ประการที่พระบาท

มหัศจรรย์พระไสยาส มหัศจรรย์พระไสยาส


2. มหัศจรรย์ตำราเวชเชตุพน   ศาลาจารึกตำรานวดแผนโบราณ   มีจิตรกรรมลายเส้นบอกตำแหน่งนวด นับเป็นบันทึกที่รวบรวมสรรพวิชาทั้งการแพทย์ การเมือง การปกครอง ประวัติการสร้างวัด และ วรรณคดี นับเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศ

มหัศจรรย์ตำราเวชเชตุพน


3. มหัศจรรย์มหาเจดีย์ สี่รัชกาล  เป็นมหาเจดีย์ขนาดใหญ่ 4 องค์ องค์พระเจดีนั้นเป็นแบบเจดีย์ย่อไม้สิบสอง ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ อันประกอบด้วย พระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 1 – 4

มหัศจรรย์มหาเจดีย์ สี่รัชกาล


4. มหัศจรรย์ต้นตำนานสงกรานต์ไทย  คติความเชื่อตำนานสงกรานต์ ซึ่งรัชกาลที่ 3 ให้จารึกลงในแผ่นศิลาติดไว้ที่วัดโพธิ์ เป็นเรื่องเล่าถึงความเป็นมาของประเพณีดังกล่าว โดยสมมุติผ่านเรื่องราวธรรมบาลกุมารและนางสงกรานต์ทั้งเจ็ดเทียบกับแต่ละวันในสัปดาห์


5. มหัศจรรย์มรดกโลกวัดโพธิ์    ซึ่งรัชกาลที่ 3 ทรงให้นำองค์ความรู้จากปราชญ์ของไทยเช่น ตำราการแพทย์ โบราณคดี วรรณกรรม โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอนฯลฯ จารึกลงบนแผ่นหินอ่อนประดับไว้ตามบริเวณผนังภายในวัดซึ่งความรู้ที่จารึกไว้บนแผ่นศิลาในปัจจุบันรวมเรียกว่า ประชุมจารึกวัดพระเชตุพน โดยองค์การยูเนสโกมีมติรับรองขึ้นทะเบียนศิลาจารึกพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นเอกสารมรดกความทรงจำแห่งโลก

มหัศจรรย์มรดกโลกวัดโพธิ์


6. มหัศจรรย์ตำนานยักษ์วัดโพธิ์  บอกเล่าเรื่องราวตำนานเกี่ยวกับยักษ์วัดโพธิ์และยักษ์วัดแจ้งซึ่งทำให้เกิดท่าเตียนในปัจจุบัน

มหัศจรรย์ตำนานยักษ์วัดโพธิ์


7. มหัศจรรย์ผ่านภพรัตนโกสินทร์   พระอุโบสถหลังเก่าของวัดโพธารามตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ภายหลังการสถาปนาพระอุโบสถหลังใหม่ของวัดพระเชตุพนแล้ว จึงได้ลดฐานะเป็นศาลาการเปรียญ โดยภายในมี “พระพุทธศาสดา” ประดิษฐานเป็นพระประธาน

มหัศจรรย์ผ่านภพรัตนโกสินทร์   มหัศจรรย์ผ่านภพรัตนโกสินทร์


8. มหัศจรรย์วิจิตรพระพุทธเทวปฏิมากร  ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธเทวปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ซึ่งรัชกาลที่ 1 ทรงอัญเชิญมาจากวัดศาลาสี่หน้า ด้วยประสงค์ตั้งมั่นแน่วแน่ว่า นี่จะเป็นพระนครอย่างถาวร

มหัศจรรย์วิจิตรพระพุทธเทวปฏิมากร


9. มหัศจรรย์ต้นตำรับนวดแผนไทย  รัชกาลที่ 1 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้รวบรวมการแพทย์แผนโบราณและศิลปะวิทยาการครั้งกรุงศรีอยุธยาไว้ ทรงพระราชดำรินำเอาท่าดัดตนอันเป็นการพักผ่อนอิริยาบถแก้เมื่อยตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย และประยุกต์กับคติไทยที่ยกย่องฤษีเป็นครูผู้ประสิทธิ์ประสาทวิทยาการต่างๆ เป็นรูปฤาษีดัดตน แสดงท่าไว้ที่วัดเพื่อให้ราษฎรทั่วไปได้ศึกษาเล่าเรียนและรักษาโรคได้อย่างกว้างขวาง

มหัศจรรย์ต้นตำรับนวดแผนไทย

คนไทยเข้าชมฟรี ชาวต่างชาติ คนละ 50 บาท
เปิดให้เข้าชมระหว่างเวลา 8.00-21.00 น. ทุกวัน
ติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักงานวัดพระเชตุพนฯ  โทร. 0 2226 0335, 0 22260369
   
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย http://travel.mthai.com/blog/4504.html 
                                                     
http://www.idotravellers.com
           

วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555

ลดหุ่นให้เข้าที่ ด้วย 35

ลดหุ่นให้เข้าที่ ด้วย 35  วิธีลดความอ้วน

วิธีลดความอ้วน


          อยากลดหุ่นให้เข้าที่หรือ? ง่าย ๆ เลยค่ะ ลองเลือกทำตามวิธีลดความอ้วน ที่กระปุกดอทคอมนำฝากในวันนี้ ดูสิว่า วิธีไหนเหมาะสมกับคุณบ้าง หรือจะเลือกใช้ทุกวิธี เอาให้ผอมทันใจก็ย่อมได้ รับรองว่าดีต่อสุขภาพค่ะ1.รับประทานผัก-ผลไม้มาก ๆ

          อย่าละเลยการรับประทานผัก-ผลไม้เด็ดขาดค่ะ เพราะผักผลไม้มีทั้งเส้นใย และสารอาหารต่าง ๆ ที่ดีกับคุณสาว ๆ แถมทานมากเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนด้วย


 2. หลีกเลี่ยงการทานอาหารทอด ๆ และติดมัน


          อาหารทอด ๆ มาพร้อมกับน้ำมันที่จะมาทำให้คุณอวบอั๋นขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย เช่นเดียวกับอาหารเนื้อสัตว์ติดมัน เช่น กุนเชียง หมูสามชั้นทอดกรอบ หนังไก่ กากหมู ถ้าไม่อยากอ้วน อดใจไว้ค่ะ


3.ทานดาร์กช็อกโกแลต


          ใช่ค่ะ คุณหูไม่ฝาด เรากำลังแนะนำให้คุณทานช็อกโกแลต แต่ไม่ใช่ว่าช็อกโกแลตทั่ว ๆ ไปก็ทานได้หรอกนะคะ ต้องเป็นดาร์ก ช็อกโกแลตเท่านั้น ถึงจะมีสารแอนตี้ออกซิเดนท์ และเป็นประโยชน์กับร่างกายของคุณสาว ๆ


4. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย


          แทบจะทุกบทความ ที่แนะนำให้คุณดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8-12 แก้ว เพราะน้ำจะช่วยเร่งระบบการเผาผลาญ จึงช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินให้คุณด้วย ซ้ำยังช่วยให้คุณอิ่มเร็วขึ้นด้วย หากคุณดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนทานอาหารทุกครั้ง แต่อย่าชะแว้บ! ไปมอง "น้ำอัดลม" หรือ "น้ำผลไม้" เชียว ยกเว้น "น้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง" ที่เราแนะนำให้คุณดื่มได้


 5.ดื่มน้ำอย่างน้อย 1 แก้วหลังตื่นนอน


          จำ และทำให้เป็นนิสัย เพราะการดื่มน้ำอย่างน้อย 1 แก้ว ทันทีหลังจากที่คุณเพิ่งตื่นนอน จะทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังจะช่วยให้ระบบขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายทั้งหนักทั้งเบา ทำงานได้อย่างคล่องตัว


 6.ทานอาหารเช้า


          จำได้ไหมว่า อาหารเช้าคืออาหารมื้อสำคัญที่สุดของวัน ถ้าหากคุณสาว ๆ พลาดอาหารเช้าในช่วงเวลา 6.00-10.00 น.ไปล่ะก็ คุณอาจจะรู้สึกหิวในมื้อต่อ ๆ ไปมากขึ้น ทีนี้ล่ะ คุณอาจจะเผลอตัวเผลอใจสวาปามอาหารที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่ยั้ง แล้วจะลดน้ำหนักได้อย่างไรล่ะจ๊ะ


 7.กินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน


          การไดเอท ไม่ได้สำคัญที่ว่าคุณทานอะไรเข้าไป แต่สำคัญที่ว่า ทำไมคุณถึงทานเข้าไปต่างหาก ฉะนั้นแล้ว หากใครชอบกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ เพียงเพื่ออยากทานสิ่งนั้น จงเปลี่ยนพฤติกรรมด่วนค่ะ ทานให้แต่พออิ่มจะดีกว่า และควรทานเมื่อเวลาที่หิวจริง ๆ

วิธีลดความอ้วน


 8.ออกกำลังกายสำคัญสุด ๆ


          แน่นอนว่า หนึ่งในวิธีที่คนทั่วโลกแนะนำก็คือ การออกกำลังกายนี่แหละ เพราะมันจะช่วยรักษาน้ำหนักให้คงที่ในระยะยาวได้ แถมยังจะช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรีให้กลายเป็นพลังงานได้คราวละมาก ๆ ด้วย หากคุณสาว ๆ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ลองหาเวลาเดินวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน นอกจากคุณจะควบคุมน้ำหนักได้ดีแล้ว ยังจะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงอีกด้วยล่ะ


 9.หาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ไดเอท


          เขาว่า "คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย" ใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้น อย่ามาท้อแท้กับการไดเอทเพียงลำพังเลย ลองหาเพื่อนที่มีแนวคิดเดียวกัน แล้วชวนมาลดความอ้วนด้วยกันดีกว่า เพราะการมีเพื่อนหัวอกเดียวกัน จะทำให้คุณมีกำลังใจขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ


 10.อย่ากักตุนอาหารในตู้เย็น


          สาว ๆ มักจะชอบซื้ออะไรต่อมิอะไรมาเก็บไว้ในตู้เย็น อ้างว่าเตรียมไว้รับรองแขกบ้าง ไว้เลี้ยงเพื่อนบ้างล่ะ แต่สุดท้ายก็มักจะเหลือเต็มตู้เย็น จนคุณสาว ๆ นั่นแหละต้องมาทานเอง เพราะฉะนั้น หากไม่อยากอ้วน กำจัดของกินในตู้เย็นโดยด่วน คุณจะได้ไม่เผลอหยิบติดมือมาทานได้ง่ายเกินไปนั่นเอง แต่ถ้าอยากจะมีอาหารติดในตู้เย็น แนะนำว่า ผักผลไม้ และบรรดาอาหารเพื่อสุขภาพทั้งหลายจะเวิร์กที่สุดค่ะ


11.อย่ากินไป ดูทีวีไป


          รู้หรอกน่า ว่าคุณสาว ๆ ชอบกินนั่น กินนี่ กินจุบกินจิบทั้งวันไม่เป็นเวลา โดยเฉพาะเวลานั่งดูโทรทัศน์ หรือนั่งอ่านหนังสือ มักจะหาอะไรติดไม้ติดมือเข้าปากเป็นประจำ แต่นั่นแหละค่ะ การที่คุณสาว ๆ หยิบคุ้กกี้บ้าง ขนมปังกรอบบ้าง มันฝรั่งทอดบ้าง เข้าปากแต่ละที คุณจะเพลินจนลืมเรื่อง "อ้วน" ไปชั่วขณะเลยทีเดียว


 12.ใส่ใจ "ข้าวกล้อง" กันให้มากขึ้น


          ปกติเรามักจะชินกับการรับประทาน "ข้าวขาว" ซึ่งจะได้เพียงแค่คาร์โบไฮเดรตเท่านั้น แต่หากคุณเปลี่ยนมาทาน "ข้าวกล้อง" แทน คุณจะได้ทั้งคาร์โบไฮเดรต วิตามิน เกลือแร่มากมายจากเยื่อหุ้มและจมูกข้าวที่ไม่ได้ถูกขัดสีออกไป


น้ำตาล


 13."น้ำตาล" และ "เกลือ" จอมวายร้าย


          "น้ำตาล" เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณมีปัญหาเรื่องน้ำหนัก เพราะฉะนั้นบรรดาของหวาน ลูกอม น้ำอัดลม เค้กต่าง ๆ จงงดเสีย!!! ให้ดื่มน้ำมะนาวแทน หรือทานน้ำตาลที่มาจากผลไม้จะดีกว่า เช่นเดียวกับ "เกลือ" ที่เราควรได้รับโซเดียมวันละไม่เกิน 1 ช้อนชาเท่านั้น แต่เกลือ หรือโซเดียมที่ผสมอยู่ในขนมต่าง ๆ อาหารฟาสต์ฟู้ดส์ รวมทั้งซุปที่ทานเข้าไปในแต่ละวัน ล้วนเกินปริมาณที่กำหนด จึงเป็นสาเหตุให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง และทำให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพมากมายตามมาได้ เพราะฉะนั้น ลดซะ!!!


 14.ระวัง!!! สลัดน้ำข้น


          คุณสาว ๆ หลายคนอาจสงสัย ทำไมทานสลัดอยู่ทุกวัน ๆ ยังอ้วนอีก เพราะลืมไปว่า ตัวเองทานผักสลัดกับสลัดน้ำข้นนั่นไงล่ะ รู้ไหมว่า สลัดน้ำข้นนั้นอุดมไปด้วยครีมนม และไขมันนม ซึ่งหากรับประทานเข้าไปมาก ๆ แม้จะทานกับผักก็เถอะ ร้อยทั้งร้อย "อ้วน" อย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ


 15.สรรหาจานสีเข้ม ๆ


          มีผลการศึกษาระบุว่า การใช้จานอาหารสีสดใสจะช่วยกระตุ้นให้คุณอยากทานอาหารมากขึ้น กลับกันหากคุณใช้จานอาหารสีเข้ม ๆ โดยเฉพาะสีน้ำเงิน จะทำให้คุณลดความอยากอาหารลงไปได้ และนี่เองจะช่วยสกัดกั้นไม่ให้คุณทานมาก จะได้ไม่ต้องลดน้ำหนักอย่างเอาเป็นเอาตายภายหลังอย่างไรล่ะคะ


 16. ใช้ภาชนะให้เล็กลง


          นอกจากใช้ภาชนะสีเข้ม ๆ แล้ว การเปลี่ยนจานให้เล็กลง ก็เป็นวิธีทางจิตวิทยา ที่ทำให้เรารู้สึกว่า อาหารมีปริมาณมากขึ้น ทำให้เรารู้สึกอิ่มได้เร็ว ไม่อยากหาอะไรทานอีก

วิธีลดความอ้วน


 17.ลด "ชา" , "กาแฟ" , "ครีมเทียม"


          การรับประทาน "ชา" , "กาแฟ" มากกว่าสองแก้วต่อวัน อาจทำให้คุณอ้วนได้ โดยเฉพาะหากใครชอบใส่ "ครีมเทียม" ในกาแฟ จะทำให้คุณได้รับแคลอรี่มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว รวมทั้งกาแฟสดทั้งหลายด้วยล่ะ


 18.เคี้ยวช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม


          การเคี้ยวอาหารช้า ๆ และเคี้ยวอย่างละเอียด ช่วยคุณสาว ๆ ลดความอ้วนได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะจะทำให้สมองมีเวลาที่จะส่งสัญญาณไปบอกให้ท้องรู้สึกอิ่มได้แล้ว กลับกันคนที่เคี้ยวเร็ว กินเร็ว จะไม่รู้สึกอิ่มแม้ทานอาหารหมดจานแล้ว และเมื่อท้องไม่อิ่ม คุณสาว ๆ ก็มักจะมองหาของหวานตบท้ายมื้ออาหาร ซึ่งจะนำความอ้วนมาสู่ร่างกายของคุณอย่างชัวร์ ๆ


19.หลีกเลี่ยงไข่แดง ให้ทานไข่ขาว


          ไข่แดง อุดมไปด้วยคอเลสเตอรอล ที่เป็นบ่อเกิดของโรคหัวใจ และโรคอ้วน แต่ไข่ขาวไม่มีคอเลสเตอรอล ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานไข่แดง หรือทานในปริมาณน้อย และหันมาทานไข่ขาวแทน นอกจากนี้ หากวันไหนทานไข่มาก ๆ ก็ควรงดการทานอาหารที่มีไขมันสูงในมื้ออื่น ๆ ของวันเดียวกันด้วย เพื่อไม่ให้มีคอเลสเตอรอลสะสมในร่างกายมากเกินไป


 20.อย่าให้รางวัลตัวเอง ด้วยการไปทานอาหาร


          สอบผ่าน! โปรเจกท์ผ่าน! พรีเซนต์งานผ่าน! ไปฉลองกันดีกว่า!!! หยุดความคิดนี้เลยค่ะ เพราะการที่คุณให้รางวัลกับความสำเร็จของตัวเอง ด้วยการไปรับประทานอาหารตามใจปาก อาจทำให้คุณอ้วนได้เหมือนกัน ทางที่ดีให้รางวัลกับตัวเองด้วยการทำสิ่งที่ตัวเองปรารถนา ยกเว้นเรื่องกิน!!! เช่น ไปช้อปปิ้ง ไปเที่ยวพักผ่อน นวดหน้า ทำผม ขัดผิว ฯลฯ จะดีที่สุดค่ะ

วิธีลดความอ้วน


 21.จำไว้ อย่าอด


          ใช่ว่า การไดเอทคือการอดอาหาร เพราะยิ่งคุณอดอาหารเท่าไหร่ จะมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด แถมยังทำให้คุณหิวมากขึ้นมากขึ้น จนทำให้คุณสามารถทานได้มากกว่าปกติในมื้อต่อไป


 22.แบ่งทานบางส่วน ไม่ต้องทานให้หมด


          สาว ๆ หลายคนบ่นเสียดายอาหารที่อยู่ตรงหน้า ไม่อยากเหลือทิ้งไว้ แต่สำหรับกฎเกณฑ์ของการลดความอ้วน คุณไม่จำเป็นต้องทานหมดหรอกค่ะ โดยคุณควรจะแบ่งอาหารในจานไว้ 4 ส่วน แล้วทานเพียงแค่ 3 ส่วนก็เพียงพอแล้ว


23.อย่าทานอะไรหลังมื้อเย็นอีก


          ไม่ดีแน่ หากคุณทานขนม หรืออาหารอะไรหลังจากคุณทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว ทางที่ดีคือ ควรจะให้ร่างกายได้พักผ่อนจากการย่อยอาหาร แล้วไปเริ่มทำงานใหม่ในมื้อเช้าของวันรุ่งขึ้นจะดีกว่า

วิธีลดความอ้วน


 24.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ


          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะว่า หากคุณพักผ่อนนอนหลับไม่เพียงพอ อาจจะมีผลกระทบต่อฮอร์โมนเลปติน ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมความอยากอาหาร ดังนั้น อาจทำให้คุณยับยั้งชั่งใจในการรับประทานไม่อยู่ และอ้วนขึ้นได้ นอกจากนี้ หากคุณนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้ว ก็สามารถช่วยให้ร่างกายกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปได้เช่นกัน



25. ทานหลาย ๆ มื้อ (เล็ก ๆ) ในหนึ่งวัน


          ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การทานอาหาร 4-5 มื้อเล็ก ๆ ในแต่ละวัน จะช่วยควบคุมระบบการเผาผลาญ และความอยากอาหารได้ดีกว่าการทานอาหารมื้อปกติ 3 มื้อ โดยระหว่างมื้ออาหาร คุณอาจทานสแน็ก หรือผลไม้ เพื่อให้คุณอิ่ม และไม่หิวมากจนกระทั่งถึงมื้อต่อไป ทีนี้ในมื้อต่อไป คุณก็จะทานอาหารได้น้อยลงแล้ว


 26. โปรตีน ตัวช่วยลดความอ้วนในทุก ๆ มื้อ


          มีคำแนะนำให้ในแต่ละมื้ออาหารต้องมีอาหารประเภทโปรตีนผสมด้วย เพราะโปรตีนจะช่วยคงสภาพกล้ามเนื้อ และกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น โดยโปรตีนที่แนะนำก็คือ อาหารจำพวกถั่ว นม โยเกิร์ตนั่นเอง


 27.เผ็ดหน่อย อร่อยดี


          การศึกษาพบว่า "พริก" ช่วยเพิ่มอุณหภูมิในร่างกาย และช่วยในการเผาผลาญ จึงมีประโยชน์เรื่องการควบคุมน้ำหนัก นอกจากนี้ การกินพริก จะไม่ทำให้รู้สึกอยากกินหวานอีก รับรองว่า กินพริกแล้ว ลืมเรื่องความอ้วนไปได้เลย


 28.ดื่มชาเขียว


          มหาวิทยาลัยสวิสเซอร์แลนด์พบว่า การดื่มชาเขียวเป็นทางหนึ่งที่ช่วยลดน้ำหนัก เพราะจะช่วยเรื่องการเผาผลาญแคลอรี่ได้ ดังนั้นควรพยายามดื่ม 3 ถ้วยต่อวัน แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่า ต้องเป็นชาเขียวบริสุทธิ์จริง ๆ ไม่ใช่ชาเขียวในขวดที่มีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณมาก แบบนี้ลดความอ้วนไม่ได้แน่นอนค่ะ


วิธีลดความอ้วน



 29. ดื่มนม ก็ช่วยลดความอ้วน


          หากไม่ชอบดื่มชาเขียว จะลองหันมาดื่มนมก็ช่วยลดความอ้วนได้ เพราะนมเป็นแหล่งอุดมไปด้วยแคลเซียม ซึ่งมีการศึกษาพบว่า การที่ร่างกายได้รับวิตามินดีและแคลเซียมสูง จะช่วยให้น้ำหนักของเราลดลงได้ แถมนมยังทำให้เรารู้สึกอิ่มจนไม่อยากทานอาหาร หรือเครื่องดื่มอะไรที่มีน้ำตาลด้วย


 30.อ่านฉลากรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ด้วยล่ะ


          ก่อนซื้ออาหารหรือเครื่องดื่ม ลองอ่านรายละเอียดที่ติดอยู่ข้างผลิตภัณฑ์ หีบห่อ ฯลฯ ดูก่อนทุกครั้ง เพราะมันจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีแคลอรีสูง หรือไขมันสูงได้ แต่ขอย้ำว่า ยามใดที่ไปซุปเปอร์มาร์เก็ต ควรหลีกเลี่ยงการไปเดินในบริเวณที่ขายคุ้กกี้ พิซซ่าแช่แข็ง และไอศกรีม เพราะคุณอาจจะไม่ทันได้อ่านฉลากข้างกล่องก็ซื้อมันได้ง่าย ๆ เพราะติดใจในความอร่อยของมันนั่นเอง


 31..จดบันทึกประจำวันให้เป็นนิสัย


          แต่ละวันคุณกินอะไรไปบ้าง ลองจดบันทึกไว้ทุก ๆ สัปดาห์ดูสิ เพราะมันจะช่วยให้คุณยับยั้งชั้งใจ และควบคุมพฤติกรรมการรับประทานอาหารได้ดีเลยทีเดียว


 32.ทานผลไม้สด ดีกว่าผลไม้ดอง หรือน้ำผลไม้ปั่น


          น้ำผลไม้ปั่นมักผสมน้ำเชื่อม น้ำตาล ทำให้คุณสาว ๆ ได้รับน้ำตาลเกินความจำเป็น ขณะเดียวกัน ผลไม้ดอง ก็อาจมีสารแซคคารีน หรือที่เรียกว่าขัณฑสกรผสมอยู่ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะฉะนั้น ถ้าอยากได้วิตามินที่ครบถ้วน เลือกทานผลไม้สดดีกว่าแน่นอนค่ะ


33.ความเครียด คือ จุดอ่อน


          รู้ไหมคะว่า เมื่อฮอร์โมนความเครียดเพิ่มขึ้น ก็ทำให้ความต้องการอาหารในร่างกายเพิ่มขึ้น หรือทำให้หิวนั่นเอง แถมหิวบ่อยชนิดที่ไม่รู้ตัวเลยด้วย เพราะคนเครียดส่วนใหญ่มักจะจมอยู่กับความเครียด จนลืมสังเกตพฤติกรรมการกินของตัวเอง ดังนั้น ทำตัวเองให้ห่างไกลจากความเครียดเถอะค่ะ


34.หัวเราะ ช่วยลดความอ้วน


          งานวิจัยระบุว่า การหัวเราะจะทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ขณะเราหัวเราะ จะหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปได้มากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อท้องได้ออกกำลังไปในตัว


วิธีลดความอ้วน


 35.ชั่งน้ำหนักอาทิตย์ละครั้ง


          ไม่จำเป็นที่คุณจะรีบร้อน ชั่งน้ำหนักตัวทุก ๆ วัน เพราะหากคุณลดไม่ได้ดังใจปรารถนาแล้ว จะยิ่งทำให้คุณเครียดเสียเปล่า ๆ เพราะฉะนั้น ชั่งน้ำหนัก และเปลือยกายสำรวจตัวเองในห้องน้ำอาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอแล้วล่ะ

          เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับ 35 วิธีลดความอ้วน วิธีลดน้ำหนัก ที่เรานำมาแนะนำกันวันนี้ ใครถูกใจวิธีไหน ลองไปใช้กันดูนะคะ อ้อ...แล้วก็ต้องปฏิบัติตามอย่างสม่ำเสมอด้วยล่ะ ถึงจะเห็นผลเร็วค่ะ

เคล็ดลับความสวย

เคล็ดลับความสวย ดูแลข้อศอกและหัวเข่าด้วยน้ำผึ้ง


ข้อศอกและหัวเข่า ต้องได้รับการดูแลตลอด แม้ไม่ใช่ฤดูหนาวก็ตาม เพื่อไม่ให้ผิวพรรณบริเวณนั้นนุ่มนวลไม่แห้งกร้าน โดยเฉพาะในฤดูหนาวหรือคนที่ต้องทำงานในห้องแอร์ตลอด ข้อศอกและหัวเข่านั้นจะดูแห้งกร้านและมีรอยคล้ำจนเห็นได้ชัดกว่าส่วนอื่นๆ เคล็ดลับความสวย ในตอนนี้เรามาดูแลผิวพรรณบริเวณข้อศอกและหัวเข่าด้วยน้ำผึ้งกันดีกว่า

* ขั้นตอนแรก เตรียมน้ำผึ้งแท้ประมาณ 6-7 ช้อนโต๊ะ แล้วนำไปอุ่นให้พอดี อย่าให้ร้อนจนเกินไป

* ขั้นตอนที่สอง ทำความสะอาดข้อศอก มือและหัวเข่าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่ แล้วซับให้แห้งด้วยผ้าขนหนู

* ขั้นตอนสุดท้าย ใช้ปลายนิ้วแตะน้ำผึ้งอุ่นๆที่เตรียมไว้ มาทาถูให้ทั่วๆข้อศอกและหัวเข่าทั้ง 2 ข้าง ขณะกำลังทาน้ำผึ้งนั้นก็ให้ออกแรงนวดคลึงบริเวณนั้นด้วย ทาจนน้ำผึ้งที่เตรียมไว้จนหมด แล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่ เป็นอันเรียบร้อย

เคล็ดลับความสวย ดูแลผิวหน้ามันด้วยสับปะรด


ผิวหน้ามันเป็นผิวพรรณที่มีปัญหา สำหรับผู้หญิง การแต่งหน้าจะทำได้ยากบนใบหน้าที่มัน และแม้แต่งหน้าไปแล้วก็จะสวยได้ไม่นานก็มันเยิ้มขึ้นมาอีก สำหรับผู้ชาย ก็ทำให้เสียบุคคลิก หมดเสน่ห์ไม่น่ามอง และใบหน้ามันก็เป็นบ่อเกิดของสิวอีกด้วย การล้างหน้าบ่อยๆในระหว่างวันก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่ทางที่ดีที่สุดคือการดูแลรักษาผิวหน้าเป็นประจำ เคล็ดลับความสวย ในตอนนี้จะลดความมันบนผิวหน้าด้วยสับปะรด แถมใบหน้าจะสะอาดเกลี้ยงเกลาสดใส ไร้สิวและริ้วรอย มาลองทำกันดีกว่าค่ะ

* ขั้นตอนแรก เตรียมสับปะรดเปรี้ยว 1/4 ผล มีด ส้อม ถ้วย และที่คาดผมหรือหมวกคลุมผมสำหรับอาบน้ำ

* ขั้นตอนที่สอง ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า ซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนู แล้วเก็บผมให้เรียบร้อยด้วยที่คาดผมหรือหมวกคลุมผมสำหรับอาบน้ำ

* ขั้นตอนที่สาม ล้างสับปะรดที่เตรียมไว้ให้สะอาด สะบัดน้ำออก แล้วนำมีดมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆใส่ในถ้วย แล้วใช้ส้อมยีสับปะรดให้เละ

* ขั้นตอนสุดท้าย พอกสับประรดให้ทั่วใบหน้า ยกเว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก ทิ้งไว้สัก 25-30 นาที แล้วทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า ซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนู เป็นอันเรียบร้อย

เคล็ดลับความสวย ด้วยสับประรดนี้ควรทำเป็นประจำทุกๆ 5 วันจะได้ผลดี แล้วใบหน้าคุณจะสดใสไร้ความมัน
เคล็ดลับความสวย ด้วยน้ำผึ้งนี้ควรทำเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อผิวพรรณที่นุ่มนวลไม่แห้งกร้าน

เคล็ดลับความสวย ใบหน้าเนียนขาวใสด้วยสตรอเบอร์รี


เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน ใบหน้าของเราจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไม่สดใสเหมือนวัยเยาว์ มักจะมีริ้วรอยต่างๆทำให้แลดูแก่กว่าวัย และแม้ในวัยรุ่นวัยหนุ่มสาวบางคน ก็มีไม่น้อยที่มีริ้วรอยจนดูแกกว่าอายุ อาจเกิดจากการได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน พักผ่อนนอนหลับไม่เพียงพอ ความเครียด หรือการโดนแดดลมบ่อยๆ เคล็ดลับความสวย ในตอนนี้จะใช้สตรอเบอร์รี มาบำรุงผิวหน้าเพื่อให้หลีกไกลจากริ้วรอย ไฝฝ้าและจุดด่างดำบนใบหน้า ทำให้ใบหน้าของคุณแลดูสดชื่น เนียนขาวใสอมชมพู เหมือนวัยแรกรุ่นเลยทีเดียว มาลองทำตามกันเลยดีกว่าค่ะ

* ขั้นตอนแรก เตรียมสตรอเบอร์รีประมาณ 8-10 ผล เครื่องปั่นหรือส้อม ที่คาดผมหรือหมวกคลุมสำหรับอาบน้ำ

* ขั้นตอนที่สอง ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า ซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนู เก็บผมให้เรียบร้อยด้วยที่คาดผมหรือหมวกคลุมผมสำหรับอาบน้ำ

* ขั้นตอนที่สาม นำสตรอเบอร์รีที่เตรียมไว้ มาใช้ส้อมยีให้เละ แต่ถ้าจะใช้เครื่องปั่น ก็อย่าปั่นให้ละเอียดจนเกินไป

* ขั้นตอนสุดท้าย พอกใบหน้าด้วยสตรอเบอร์รีที่เตรียมไว้ให้ทั่ว โดยเว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก ทิ้งไว้นานประมาณ 25-30 นาที ห้ามเคลื่อนไหวใบหน้าเด็ดขาด เมื่อได้เวลาแล้วให้ทำความสะอาดใบหน้าด้วยน้ำอุ่นกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า เป็นอันเสร็จขั้นตอนค่ะ

เคล็ดลับความสวย ด้วยสตรอเบอร์รี ควรทำเป็นประจำทุกๆ 2-3 วัน เพื่อใบหน้าเนียนขาวใสอมชมพู

เคล็ดลับความสวย บำรุงด้วยว่านหางจระเข้หลังโดนแดด


เรามักจะมีปัญหาสภาพผิวหลังจากโดนแดดมากเกินควร อาจจะเกิดจากการทำงาน เล่นกีฬา ออกกำลังกายหรือไปเที่ยวทะเล ทำให้เรารู้สึกผิวหน้าของเราไหม้หรือรู้สึกแสบๆตึงๆ แล้วล่ะก็ คุณควรหาทางบำรุงรักษาอย่างเร่งด่วนในทันที ก่อนจะเกิดไฝ ฝ้า กระและจุดด่างดำต่างๆ เคล็ดลับความสวย ในตอนนี้ เราจะใช้ว่านหางจระเข้เพื่อรักษา หรือจะถนอมบำรุงก่อนออกแดดเพื่อป้องกันไว้ก่อน เพื่อใบหน้าที่สดใสสดชื่น ไร้รอยใดๆบนใบหน้า มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ

* ขั้นตอนแรก เตรียมว่านหางจระเข้ มีด เครื่องปั่นหรือส้อม ถ้วย ที่คาดผมหรือหมวกคลุมผมสำหรับอาบน้ำ เวลาไปตัดว่านหางจระเข้ ให้เราเอากระดาษทิชชูแปะไว้ตรงรอยถูกเฉือนด้วย

* ขั้นตอนที่สอง ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า แล้วซับให้แห้งด้วยผ้าขนหนู เก็บผมให้เรียบร้อยโดยใช้ที่คาดผมหรือหมวกคลุมผม

* ขั้นตอนที่สาม นำว่านหางจระเข้มาตัดเป็นท่อนสั้นๆ แล้วปอกเปลือกออกให้เหลือแต่วุ้นที่อยู่ข้างใน แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด ต่อจากนั้นนำวุ้นที่ได้ไปปั่นหรือใส่ถ้วยแล้วเอาส้อมยีให้เละพอประมาณ ไม่ต้องถึงกับละเอียด

* ขั้นตอนสุดท้าย ใช้ปลายนิ้วแตะวุ้นที่เตรียมไว้ นำมาทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า โดยเริ่มจากหน้าผาก แก้ม จมูกและคาง เว้นรอบๆดวงตาและริมฝีปาก โดยระหว่างที่ทาไปนั้น ก็ให้ใช้ปลายนิ้วกดนวดคลึงผิวไปด้วย เมื่อทาจนทั่วแล้วปล่อยทิ้งไว้สัก 25-30 นาที ห้ามเคลื่อนไหวใบหน้าโดยเด็ดขาด แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เคล็ดลับความสวย ด้วยว่านหางจระเข้ ควรบำรุงเป็นประจำทุกๆ 2-3 วัน หรือก่อนและหลังออกแดดจัดๆ เพื่อใบหน้าที่ขาวใส ไร้ริ้วรอย

เคล็ดลับความสวย ขจัดริ้วรอยด้วยมะม่วงสุก


มะม่วงสุกนอกจากนำมารับประทานแล้ว ยังมีประโยชน์ช่วยรักษาบำรุงผิวหน้า ช่วยทำให้ริ้วรอยเหี่ยวย่น กระฝ้า จุดด่างดำต่างๆนั้น จะค่อยๆจางลงจนเลือนหายไปในที่สุด และช่วยให้ใบหน้าเกลี้ยงเกลาสะอาดสะอ้าน ปราศจากร่องรอย เรามาลอง เคล็ดลับความสวย ด้วยมะม่วงสุกกันดีกว่า

* ขั้นตอนแรก เตรียมมะม่วงสุก 1 ผล มีด เครื่องปั่นหรือส้อม และที่คาดผมหรือหมวกคลุมผมสำหรับอาบน้ำ

* ขั้นตอนที่สอง ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า แล้วใช้ผ้าขนหนูซับให้แห้ง เก็บผมให้เรียบร้อยด้วยที่คาดผมหรือหมวกคลุมผม

* ขั้นตอนที่สาม นำผลมะม่วงสุกมาล้างให้สะอาด แล้วใช้มีดปอกเปลือกแล้วหั่นมะม่วงเป็นชิ้นบางๆ ส่วนเม็ดจะกินหรือทิ้งก็แล้วแต่ ใช้ส้อมยีหรือเครื่องปั่น แต่ไม่ต้องให้ละเอียดมากเกินไป ควรให้มีเนื้อหยาบๆของมะม่วงอยู่ด้วย

* ขั้นตอนสุดท้าย ใช้นิ้วแตะมะม่วงที่เตรียมไว้ นำมาพอกให้ทั่วใบหน้า เว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก เมื่อพอกจนหมดเนื้อมะม่วงที่เตรียมไว้ ก็ทิ้งไว้ประมาณ 25-30 นาที โดยห้ามเคลื่อนไหวใบหน้าเด็ดขาด เมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว ทำความสะอาดใบหน้าด้วยน้ำอุ่นกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า เป็นอันเสร็จขั้นตอน

เคล็ดลับความสวย ด้วยผลมะม่วงสุกนี้ ควรทำเป็นประจำทุกๆ 5 วัน เพื่อใบหน้าที่สดใสเต่งตึง

เคล็ดลับความสวย ขัดหน้าด้วยรำข้าว


การขัดหน้าเป็นประจำสม่ำเสมอ จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป จะช่วยให้ใบหน้าของเราแลดูผุดผ่อง เกลี้ยงเกลา ขาวใสนวลเนียน เคล็ดลับความสวย ขัดหน้าด้วยรำข้าว ในตอนนี้ถ้าทำเป็นประจำแล้ว จะช่วยขจัดรอยด่างดำ ไฝและฝ้าต่างๆด้วย มาเริ่มลงมือทำกันเลยดีกว่า

* ขั้นตอนแรก เตรียมรำข้าวละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ นมเปรี้ยว 3 ช้อนโต๊ะ เกลือทะเล 1/2 ช้อนโต๊ะ ถ้วย ช้อน และที่คาดผมหรือหมวกคลุมผมสำหรับอาบน้ำ

* ขั้นตอนที่สอง ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า แล้วซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนู เก็บผมให้เรียบร้อยโดยใช้ที่คาดผมหรือหมวกคลุมผม

* ขั้นตอนที่สาม นำรำข้าวผสมกับเกลือทะเลใส่ในถ้วยที่เตรียมไว้ แล้วเติมนมเปรี้ยวลงไป ใช้ช้อนคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน แต่อย่าให้เหลวเกินไป ควรเป็นเนื้อครีมที่ค่อนข้างข้นและเหนียวพอสมควร

* ขั้นตอนสุดท้าย ใช้ปลายนิ้วแตะครีมรำข้าวที่เราผสมไว้ ทาไล่จากหน้าผาก แก้มทั้งสองข้าง จมูกและคางให้ทั่ว โดยเว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก ระหว่างที่ทาให้ทั่วใบหน้านั้น ก็ใช้ปลายนิ้วของเรากดนวดใบหน้าของเราไปด้วย เมื่อทาจนครีมหมดแล้ว ก็ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที โดยห้ามเคลื่อนไหวใบหน้าโดยเด็ดขาด เมื่อครบเวลาที่กำหนดแล้ว ก็ล้างหน้าออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า เป็นอันเสร็จขั้นตอน

เคล็ดลับความสวย ด้วยรำข้าวนี้ ควรทำเป็นประจำทุกสัปดาห์ จะได้ผลที่ดี แต่ถ้าผิวมีบาดแผล ก็ควรงดทำไปก่อน เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบหรือการปวดแสบได้

เคล็ดลับความสวย บำรุงเล็บด้วยมะนาว


การดูแลสุขภาพนั้น ต้องดูแลทุกส่วนของร่างกาย ในตอนนี้มาแนะนำถึงการดูแลเล็บมือและเท้ากัน นอกจากการเข้าร้านเสริมสวนให้ช่างตัดเล็บตัดหนัง ทาสีเล็บให้สวยกันแล้ว การบำรุงเล็บที่แท้จริงคือให้วิตามินกับเล็บเพื่อให้เล็บมีความแข็งแรงไม่แตกหักง่าย และมีความเงางามแม้ไม่ได้ทาสีเคลือบเล็บ มาเริ่ม เคล็ดลับความสวย บำรุงเล็บด้วยมะนาว กันเลยดีกว่า

เตรียมน้ำอุ่นใส่อ่างเล็กๆ แช่เท้าในอ่างประมาณ 2-3 นาที แล้วซับเท้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนู จากนั้นนำมะนาวสักครึ่งผล ไม่ต้องบีบน้ำออกนะคะ แล้วใช้มะนาวถูให้ทั่วทั้งเล็บและนิ้ว ถูไปเรื่อยๆจนทั่ว ถึงแม้น้ำมะนาวหมดแล้วก็ขัดถูต่อไปเรื่อยๆสักพัก แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นกับสบู่จนสะอาด ซับให้แห้งด้วยผ้าขนหนู

เคล็ดลับความสวย ด้วยมะนาวนี้ควรทำทุกอาทิตย์ เพื่อบำรุงเล็บให้มีสุขภาพดี แต่ไม่ควรทำในช่วงที่เล็บหรือนิ้วมีบาดแผล เพราะจะทำให้เกิดการแสบจากฤทธิ์ของน้ำมะนาวได้
http://xn--42ca1cya0bgqbub6a9eq1q3d.blogspot.com/